กลืนเมล็ดฝรั่งทำให้เป็นไส้ติ่งอักเสบ

กลืนเมล็ดฝรั่งทำให้เป็นไส้ดิ่งอักเสบ เป็นความเชื่อที่อยู่คู่กับเรามาอย่างยาวนาน แต่ความจริงแล้ว จากสถิติในทางการแพทย์ยืนยันว่าไม่เคยพบเมล็ดฝรั่งหรือเมล็ดผลไม้อยู่ในไส้ติ่งหรือกรณีที่เม็ดผลไม้ทำให้เป็นไส้ติ่งอักเสบแต่อย่างใด แต่ถ้าถามถึงความเป็นไปได้ จากการวิจัยพบว่ามี แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นมีน้อยมาก ๆ
(ข้อมูลจากเว็บไซด์ https://www.tnnthailand.com/news/health/155633/)
โดย สาเหตุการเกิดไส้ติ่งอักเสบ เกิดจากการอุดตันของไส้ติ่งจากต่อมน้ำเหลือง หรือสิ่งที่ตกตะกอนในไส้ติ่งและสะสมคล้ายนิ่ว มีอาการบวม อักเสบ โดยอาจจะอุดตันจากเศษอุจจาระขนาดเล็ก สิ่งแปลกปลอม พยาธิที่เคลื่อนที่ลงไปอุดตัน ทำให้ไม่มีการระบายถ่ายเทแบคทีเรียสะสม มีเลือดคั่ง และกระจายไปที่ผนังไส้ติ่งจนเกิดการอักเสบกลายเป็นโรคไส้ติ่งอักเสบ รวมถึงติดเชื้อไวรัส หรือการอักเสบของทางเดินอาหาร ซึ่งถ้าหากไส้ติ่งแตกทะลุ จะทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องท้องแล้วติดเชื้อในกระแสเลือด จนอาจถึงแก่ชีวิต
(ข้อมูลจากเว็บไซด์ https:/diamondpharmacy-th.com/th/)
ทั้งนี้ ไส้ติ่งอักเสบ เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน ซึ่งเกิดได้กับทุกเพศทุกวัยและยังไม่มีป้องกัน หากปวดท้องด้านขวาล่าง ให้สันนิษฐานได้ว่าอาจเป็นอาการของไส้ติ่งอักเสบได้ เมื่อมีอาการปวดและปล่อยให้อักเสบ บวมมาก อาจทำให้ใส่ติ่งแตก ต้องผ่าตัด หากไม่ตัดออกและรักษาด้วยยา จะมีโอกาสเกิดไส้ติ่งอักเสบภายหลัง
(ข้อมูลเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567)
(ข้อมูลจากเว็บ ไซด์ https//ww.springnews.co.thinews/461092)
ดังนั้น เมล็ดฝรั่งไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดไส้ติ่งอักเสบ แต่หากเรารับประทานเมล็ดฝรั่งที่เล็กและแข็งเข้าไป หรือกลืนเมล็ดผลไม้ที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงเศษอาหารอื่น ๆ แล้วไปอุดตันจนทำให้เกิดติดเชื้อ นั่นอาจเป็นเหตุให้เกิดใส่ติ่งอักเสบใต้
หมวดหมู่ : HEALTH/สุขภาพ
Tags :