บุรีรัมย์ทำได้ : Buriram Marathon Festival

: 20 พ.ค. 2568, 10:27 : 298

บุรีรัมย์ทำได้

Buriram Marathon Festival

 

จะมีที่ไหนที่ทำให้เรามีความสุขทุกครั้งที่มาเยือน  ผมมาวิ่งที่งาน Buriram Marathon Night Run เป็นปีที่ 2 ติดกัน  ไม่น่าเชื่อว่าการมาวิ่งครั้งที่ 2 จะทำให้ผมมีความประทับใจมากกว่าครั้งที่ 1 ซึ่งนับเป็นเรื่องยากมาก  เพราะทฤษฎีการประทับใจครั้งแรก  หรือ First Impression นับเป็นทฤษฎีทางด้านจิตวิทยาที่ทำให้ทุกคนบนโลกใบนี้ประทับใจครั้งแรกมิรู้ลืม  แต่ครั้งที่สองทุกคนต่างไม่การันตี  เปรียบเสมือนรักแรกในวัยแตกหนุ่มสาวที่เราเจอกันรั้งแรก  แต่ครั้งหลังก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกจะเป็นเช่นไร แต่นี่มันคือชีวิตจริงในวันที่เราผ่านโลกร้อนหนาวมาพอสมควร  ที่ความประทับใจกลับเพิ่มมากกว่าเดิม

 

อาจเป็นเพราะอากาศในงานวิ่งเมื่อเย็นวันที่ 21 มกราคม 2566 เป็นใจอย่างมาก  ด้วยอุณหภูมิการวิ่งประมาณ 17 องศา  ที่เปรียบเสมือนสวรรค์ของนักวิ่งทั้งชาวไทยและต่างประเทศ  จึงทำให้การวิ่งคราวนี้ดูมีรสชาติเหมือนการวิ่งในเขตประเทศอากาศหนาวซึ่งทำให้เงื่อนไขการวิ่งมีความสุดยอดเป็นอย่างมาก  แต่นั่นผมว่าไม่ใช่สิ่งที่สำคัญเท่ากับเงื่อนไขของความเป็นจังหวัดบุรีรัมย์ที่ตอนนี้กลายเป็นเมืองกีฬาระดับโลกไปแล้ว

 

"ขอบคุณนะลูกที่ทำให้ชาวบุรีรัมย์มีความสุข"  คือประโยคที่ผมได้ยินแล้วมันคงจะติดหูผมไปตลอดชีวิต  กับเสียงตุณตาคุณยายและพี่ป้าน้าอาที่ร้องบอกนักวิ่งทุกคนในขณะที่เราวิ่งผ่าน  โดยเฉพาะในเขตรอบนอกเมืองในยามค่ำคืนแม้อากาศจะหนาวเย็นเพียงใด

 

ในทัศนะผมแล้ว  ผมว่างานวิ่งที่บุรีรัมย์มันไม่ใช่แค่ง่านวิ่ง  หากแต่มันคือบุญประเพณีคล้ายฮีต 12 คอง 14 ในแบบฉบับของชาวอีสาน  แต่ที่มีความพิเศษมากกว่านั้นคือมันเป็นฮีตที่ถูกสร้างขึ้นมาบนความปัจจุบันที่มีค่านิยมร่วมสมัยโดยการเอางานกีฬามายึดโยงความสำคัญที่ผสมกับประเพณีท้องถิ่นคลุเคล้ากับวัฒนธรรมการชื่นชมคนหรือที่ภาษาฮีสานเรียกว่า "ออนซอน"  ซึ่งเป็นการชื่นชมและให้เกียรติพี่น้องต่างบ้านที่มาเยือนอย่างเต็มใจ

 

ผมมางานวิ่งที่บุรีรัมย์ปีนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งในทุกครั้งผมจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าบ้านผู้ใจดี  ที่เขาคงคิดว่าเรามามอบสิ่งงดงามให้พวกเขามากกว่ากว่าแค่มาวิ่ง

 

"ทุอย่างคือความร่วมมือ  ผมก็ไปงานนี้เพราะคิดว่ามันเป็นความร่วมมือที่เราต้องทำ"  คือประโยคที่เพื่อนรุ่นพี่ของผมผู้ให้การสนับสนุนที่พักและอาหารในทุกปีที่เรามาวิ่งเล่าให้ฟังจากใจในขณะที่เขากำลังจัดอุปกรณ์ดนตรีเพื่อเตรียมออกจากบ้านไปขึ้นวทีพร้อมกับเหล่าบรรดาศิลปินในฐานะวงดนตรีท้องถิ่นที่พวกเขาเต็มใจจะออกไปขับกล่อมให้นักวิ่งทุกคนที่วิ่งในสนาม

 

"มาอีกนะ  ไม่อยากให้มาเฉพาะในช่วงเทศกาล"  ก็เป็นอีกหนึ่งประโยคคำพูดของญาติอีกคน  ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ผมมาพักด้วยเป็นปีที่ 2 ที่แกมองว่างานวิ่งไม่ได้เป็นแค่การจัดงานวิ่งเหมือนที่อื่นๆทำ  หากแต่มันคือเทศกาลที่ทุกคนในจังหวัดต่างตระหนักร่วมกันว่า  นี่คืองานของพวกเราที่ทุกคนมีส่วนเป็นเจ้าภาพร่วมกัน 

 

ในส่วนของมิติทางด้านเศรษฐกิจ  จากการคำนวนเที่ยวนี้แหล่งข่าวหลายสำนักต่างรายงานเป็นข้อมูลเดียวกันว่า เมีงินสะพัดในช่วงจัดงานกว่า 1 พันล้านบาท  ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมายเลย  เพราะชาวบุรีรัมย์เขาจัดหนักจัดเต็ม  ทุกหน่วยงานทั้งบ้าน  วัด  โรงเรียน  และหน่วยงานทุกหมู่เหล่าต่างให้ความสำคัญเพราะนี่คือวาระของจังหวัดที่ทุกฝ่ายให้ความสำคัญ  และในฐานะนักวิ่งระยะมาราธอน  ผมรู้สู้สึกประทับใจตั้งแต่จุดสตาร์ทจนถึงสุดเข้าเส้นชัย  ที่ทุกมีคนในเมืองบุรีรัมย์ต่างออกมาให้กำลังใจตลอดเส้นทางการวิ่ง  พวกเขาคอยส่งเสียงตะโกน  ยื่นมือมาแตะ  และป้อนน้ำให้อาหาร  ที่สำคัญขบวนรถแห่และเสียงเพลงที่แสดงในระหว่างทางทั้งซุ้มเล็กซุ้มใหญ่ก็ถือเป็นสีสันที่มหัศจรรย์ยิ่งที่ผมมองว่า "ในโลกนี้ไม่มีที่ไหนทำได้เหมือนบุรีรัมย์"  ผมย้ำว่าในระดับโลกที่ไม่ใช่แค่ระดับประเทศ  เพราะมันคุ้มเกินคุ้มสำหรับนักวิ่งขาแรงและนักวิ่งสมัครเล่น  เพราะนี่มันคือสวรรค์ของนักวิ่งชัดๆ

 

งานวิ่งบุรีรัมย์มาราธอน 2023 ที่ผ่านมามีนักวิ่งระดับโลกมากมาย  รวมๆแล้วมีนักวิ่งต่างชาติระดับแนวหน้ากว่า 20 คน ทั้งที่มาด้วยการเชิญของเจ้าภาพและสมัครมาด้วยตัวเอง  จะไม่ให้มาได้อย่างไร  เพราะเงินรางวัลสำหรับผู้แข่งขันที่ชนะเลิศทั้งชายและหญิงที่มากกว่าคนละ 1 ล้านบาท  นอกจากนี้ยังมีรางวัลอื่นๆอีกมากมาย  ซึ่งรวมแล้วมีรางวัลกว่า 6 ล้านบาท  ซึ่งต้องแสดงความดีใจกับนักวิ่งชายชาวเคนย่าทั้งหญิงและชายที่โกยเงินรางวัลคนละกว่า 1 บาท ในช่วงเย็นของเมื่อคืนที่ผ่านมา  ในขณะที่นักวิ่งชายคนไทยอย่างสัญชัย  นามเขต  ผู้เป็นโค้ชให้ผมเมื่อปีที่แล้วก็คว้ารางวัลที่ 1 ของนักวิ่งชาวไทยประเภทชาย  ได้เงินรางวัลและโบนัสพิเศษรวมแล้วคงไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นบาท  ซึ่งรางวัลแค่นี้กับนักวิ่งระดับนี้ผมว่ามันคงไม่มากเกินไปสำหรับรางวัลของพวกเขาที่ได้รับ  แต่มากกว่านั้นมันคือรางวัลแห่งคุณค่าทางจิตใจและความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณที่พวกเขาได้รับพลังอย่างเต็มๆ

 

นี่คือเวทีแห่งการปล่อยของชัดๆ  มันคือพื้นที่การปลดปล่อยจุดเด่นทางวัฒนธรรม  มันคือการเอาคุณค่าความงดงามของความเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นทั้งในนามวัฒนธรรมชาวอีสานใต้และวัฒนธรรมความเป็นสังคมไทยที่ชาวบุรีรัมย์พยายามโชว์ศักยภาพให้ชาวโลกได้ชื่นชม  เพราะนอกจากนักวิ่งจะได้รับพลังอย่างล้นเหลือในทุกระยะระหว่างการวิ่งแล้ว  ทุกคนที่มาเยือนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า  "มันสุดยอดจริงๆ  พวกเขาทำได้อย่างไร"

 

ในส่วนตัวผมเอง  การวิ่งคราวนี้ก็เป็นสถิติที่ดีที่สุดในระยะมาราธอนของผมกับระยางทาง 42.195กิโลเมตร  ด้วยระยะเวลา 4 ชั่วโมง 20 นาที 6 วินาที  ทั้งที่ในใจคราวนี้กะจะมาวิ่งให้ได้ 4 ชั่วโมงครึ่ง  แต่ด้วยอากาศที่เป็นใจผมจึงทำได้ดีกว่าที่ตั้งใจไว้  นับเป็นสถิติใหม่ส่วนตัวหรือ Personal Best (New PB) ที่ผมทำได้  แม้การวิ่งคราวนี้อาจมีอาการเจ็บเท้าอยู่บ้าง  แต่ก็ถือว่าทำเวลาได้ดีเกินคาด  และที่สำคัญงานนี้มีภรรยามาวิ่งด้วยในระยะ 10 กิโลเมตร  ซึ่งเธอก็ทำเวลาได้ดีไม่แพ้กัน  จึงนับได้ว่างานนี้เรามีความสุขกันทั้งครอบครัว

 

สรุปคือ  "วิ่ง"  ได้อะไรมากกว่าที่เราคิด  เพราะมันเป็นทั้งมิตรแท้  และญาติที่เตือนเราให้มีสติที่คงทนต่อคำมั่นสัญญาของเราเอง

 

ขอบคุณบุรีรัมย์มาราธอน  งานวิ่งที่เป็นมากกว่าการวิ่ง  หากแต่มันคือเทศกาลสำคัญของชาวบุรีรัมย์ที่มีความปรารถนาดีต่อชาวโลกทุกคน

หมวดหมู่ : ทัศนะคติ

Tags :