จัดใหญ่บุญบั้งไฟบ้านดงบังนาดูน ปลื้มศิลปากรจัดงบซ่อมหอแจกร้อยปี

: 7 ต.ค. 2568, 14:46 : 250

ชาวบ้านดงบัง ต.ดงบัง อ.นาดูน มหาสารคาม จัดใหญ่งานประเพณีบุญบั้งไฟประจำปี 2566 พร้อมจัดงาน “ฮักแพงเบิ่งแงงฮูปแต้มดงบัง” ผอ.สำนักศิลปากรที่ ร่วมงานแย้มปี 2567 มีงบประมาณซ่อมแซมศาลาการเปรียญหรือหอแจกโบราณอายุกว่า 100 ปีหลังชาวบ้านทำเรื่องขอสนับสนุน

วันที่ 10 มิถุนายน 2566 ที่วัดโพธาราม บ้านดงบัง ต.ดงบัง อ.นาดูน จ.มหาสารคาม ได้มีการจัดงานบุญบั้งไฟ ประจำปี 2566 พร้อมด้วยงาน ฮักแพง เบิ่งแงงฮูปแต้มดงบัง ครั้งที่ 4 ประจำปี ๒๕๖๖ ด้วย

นายไชยณรงค์ ทองยศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบดงบัง กล่าวว่า การจัดงานบุญบั้งไฟและงานฮักแพงเบิ่งแงงฮูปแต้มดงบังครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ อนุรักษ์โบราณสถานฮูปแต้ม และสืบทอดศิลปวัฒนธรรม วิถีความเป็นอยู่ของชุมชน สนับสนุนและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ผู้นำชุมชน เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุและประชาชนในตำบลได้ทำกิจกรรมร่วมกัน มีความสมัครสมานสามัคคี มีความเสียสละ มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อตนเองและสังคมอีกทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สร้างรายได้ให้กับชุมชนตำบลดงบังด้วย

นายไชยณรงค์ กล่าวอีกว่า บรรพบุรุษของชาวดงบัง เป็นชาวลาวมาจากเวียงจันทน์ สปป.ลาว ด้วยเหตุภัยทางการเมือง และโรคภัยไข้เจ็บ จึงได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่ ณ ที่นี้ ต่อมาได้สร้างวัด เดิมทีใช้ชื่อวัดโพธิ์ทองต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดโพธาราม และในวัดมีสิม หรือพระอุโบสถ ซึ่งมีฮูปแต้มหรือจิตรกรรมฝาผนัง โดยสร้างขึ้นในสมัยพระครูจันดีเจ้าอาวาสวัด ได้รับอิทธิพลส่วนหนึ่งมาจากศิลปะญวน ความกว้าง ๑๔ เมตร ความยาว ๒๐ เมตร ฮูปแต้มเขียนด้วยสีฝุ่น วรรณะสีเย็น คือ สีฟ้าคราม น้ำเงิน เขียว ขาว ที่ผนังด้านในเขียนเรื่องพุทธประวัติ พระมาลัย ผนังด้านนอกเขียนเรื่องพระลัก-พระลาม (รามเกียรติ์ฉบับลาว) สินไซ และเวสสันดรชาดก ฝีมือช่างแบบศิลปกรรมพื้นถิ่นอีสาน

“ความพิเศษของฮูปแต้มที่นี่คือ รายละเอียดของตัวละครชาวบ้านที่เรียกว่า “ตัวกาก” ที่ช่างแต้มได้สอดแทรกภาพวิถีชีวิต ของคนเมืองมหาสารคามยุคนั้น มาใส่ไว้ในภาพ เช่นการทอผ้า การหาปลา การลงข่วง การตำข้าว การทำเกษตรตกรรม การเล่นดนตรีพื้นบ้าน และงานประเพณีฮีดสิบสองครองสิบสี่ โบราณสถานฮูปแต้ม นับเป็นความภาคภูมิใจของชาวดงบังอย่างยิ่ง”นายไชยณรงค์ กล่าว

สำหรับกิจกรรมวันนี้ ประกอบด้วยการบูชาหลวงปู่จันดี และพิธีบวงสรวงฮูปแต้ม

ประกวดวาดภาพระบายสีฮูปแต้ม ซุ้มกิจกรรม และนิทรรศการจากชุมชนดงบัง หน่วยงานราชการตำบลดงบัง หน่วยงานราชการอำเภอนาดูน และตลาดย้อนยุค ของดีชุมชนตำบลดงบัง ๙ หมู่บ้าน ขบวนแห่ฮูปแต้มดงบัง และขบวนประเพณีบุญบั้งไฟ การแสดงของโรงเรียนชุมชนบ้านดงบัง โรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ และกลุ่มพัฒนาสตรีตำบลดงบัง การแสดงศิลปวัฒนธรรมหนังประโมทัย คณะเพชรอีสาน และการแสดงหุ่นกระติบของนักเรียนโรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ การแสดงวงดนตรีโรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์

ด้านนายชูชาติ ราชจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นการอนุรักษ์โบราณสถาน ประเพณี และสืบทอดศิลปวัฒนธรรม วิถีความเป็นอยู่ของชุมชนให้คงอยู่สืบไป รวมทั้งส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สร้างรายได้ให้กับชุมชน ที่สำคัญเกิดความรัก ความสมัครสมานสามัคคี ความเข้มแข็งในชุมชน ฮูปแต้มตำบลดงบัง นับว่ามีความสำคัญยิ่ง เกิดจากภูมิปัญญาคนรุ่นก่อน บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนา ประเพณีวัฒนธรรม ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอีสาน เป็นบันทึกเรื่องราวในอดีตของชุมชน ที่ถ่ายทอดผ่านผนังโบสถ์หรือสิม โดยโบราณสถานฮูปแต้ม สามารถพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนตำบลดงบัง และเป็นแหล่งเรียนรู้ของคนรุ่นหลังได้

นอกจากนั้นในการจัดงานครั้งนี้ยังมีงานประเพณีบุญบั้งไฟ โดยมีนายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานอีก โดยประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นประเพณีหนึ่งของภาคอีสาน นิยมทำกันในเดือนหก มีตำนานจากนิทานพื้นบ้านของภาคอีสาน เรื่องพระยาคันคาก เรื่องผาแดงนางไอ่ นิทานพื้นบ้านดังกล่าว งานบุญบั้งไฟ ทำขึ้นเพื่อเป็นการบูชาพระยาแถน หรือเทพวัสกาลเทพบุตร ซึ่ง ชาวบ้านมีความเชื่อว่า พระยาแถนมีหน้าที่คอยดูแลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล และมีความชื่นชอบบั้งไฟเป็นอย่างมาก หากหมู่บ้านใดไม่จัดงานบุญบั้งไฟบูชา ฝนจะไม่ตกต้องตามฤดูกาล

สำหรับการจัดงานบุญบั้งไฟครั้งนี้ของบ้านดงบัง มีวัตถุประสงค์ เพื่อปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนตำบลดงบังได้เห็นความสำคัญ และอนุรักษ์ประเพณีบุญบั้งไฟ รักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น และสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมให้สืบทอดต่อไป เพื่อสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ คนในชุมชนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน สร้างความเข้มแข็งในชุมชน เพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้เกษตรกรผู้ทำนา ทำไร่ ทำสวน เพื่อขอฝนในการทำการเกษตร

สำหรับการจัดงานบุญบั้งไฟครั้งนี้ ขบวนแห่บั้งไฟทั้งสิ้น จำนวน ๒ ขบวน ประกอบด้วย ขบวนที่ ๑ บ้านหนองปลิงหมู่ ๑ บ้านเก่าน้อยหมู่ ๔ บ้านดงบังหมู่ ๕ และบ้านพนองพอกหมู่ ๗ ขบวนที่ ๒ บ้านยางสะอาดหมู่ ๒ บ้านวังดู่หมู่ ๓ บ้านโนนเขวาหมู่ ๖ บ้านดงบังหมู่ ๘ และบ้านโนนเขวาหมู่ ๙

นอกจากนั้นในวันนี้มีนายทศพร ศรีสมาน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา มาร่วมงานด้วย และได้แจ้งข่าวกับชาวบ้านว่าในปีงบประมาณ 2567 นี้ ทางสำนักศิลปากรที่ 10 ได้มีงบประมาณเพื่อมาซ่อมแซมหอแจกหรือศาลาการเปรียญ ซึ่งก่อสร้างตั้งแต่ปี 2460 อายุกว่า 106 ปี ซึ่งทรุดโทรมและชาวบ้านได้ทำหนังสือร้องเรียนไปตั้งแต่ปี 2563 ที่ผ่านมา





 

หมวดหมู่ : บุญศิลกินทาน

Tags :